Home | About us | บริการถ่ายภาพ | ห้องภาพ | บทความ | เว็บบอร์ด | เช็คราคากล้อง-เลนส์ | โหราพยากรณ์ | Links  
       
 

ครบเครื่องเรื่องแฟลช

แฟลชเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ช่วยในการสร้างสรรค์งานถ่ายภาพ ระบบของแฟลชสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ        

          1.แฟลชแบบแมนนวล ซึ่งเป็นแฟลชที่ต้องอาศัยการคำนวณค่า GN /ระยะทาง จะได้ค่ารูรับแสง ซึ่งค่อนข้างยุ่งยากเป็นอย่างมากเมื่อยังไม่มีความเชี่ยวชาญ อีกทั้งการสร้างสรรค์งานถ่ายภาพทำได้น้อยกว่า ในทางกลับกันเมื่อมีความชำนาญจะเป็นระบบแฟลชที่แม่นยำมากที่สุด เพราะจะไม่ถูกหลอกจากการสะท้อนแสงใด ๆ ทั้งสิ้น

flash
แฟลชแบบทรานซิสเตอร์

         2.แฟลชแบบมีทรานซิสเตอร์ ( Auto Thyristor ) จะมีลักษณะมีช่องรับแสงบริเวณด้านหน้าของแฟลชเพื่อเป็นตัวตัดไฟของแฟลชตามค่าที่แฟลชกำหนด เป็นแฟลชที่ใช้ง่ายและเหมาะกับกล้องระบบแมนนวลที่ไม่มีระบบ TTL ทำให้สะดวกในการถ่ายภาพมากยิ่งขึ้น แต่ข้อผิดพลาดก็มีมาก

แฟลชแบบ TTL

         3. แฟลชแบบ TTL ซึ่งปัจจุบันกล้องรุ่นใหม่ ๆ ใช้ระบบแฟลชแบบ TTL กันหมดแล้ว แฟลช TTL จะมีหลักการที่ว่า แฟลชกับกล้องมันจะคอยส่งข้อมูลกันอยู่ตลอดเวลา ทำให้ถ่ายภาพด้วยแสงแฟลชเป็นเรื่องง่าย โอกาสผิดพลาดน้อยลง และสามารถปรับค่ารูรับแสงได้อย่างอิสระ แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาดที่ยังต้องรู้จักปรับชดเชยแสงแฟลชให้เหมาะสม

 

 

 

แฟลชกับความไวชัตเตอร์

          กล้องทุกตัวจะมี ค่าความสัมพันธ์ของแฟลชกับความไวชัตเตอร์สูงสุดไม่เท่ากัน หากถ่ายภาพเกินที่กำหนด ภาพที่ถ่ายจะถ่ายติดเป็นเงาของม่านชัตเตอร์ โดยที่กล้อง SLR จะมีสองแบบใหญ่ ๆ คือม่านชัตเตอร์แนวนอน กับ แนวตั้ง ม่านชัตเตอร์แนวนอนจะเป็นม่านชัตเตอร์ของกล้องรุ่นเก่า อย่างเช่น PENTAX K-1000 มักจะสัมพันธ์กับแฟลชได้สูงสุดที่ 1/60 และม่านชัตเตอร์แนวตั้งจะสัมพันธ์กับแฟลชได้สูงกว่า 1/125 ขึ้นไปแล้วแต่ระดับของรุ่นที่ใช้ กล้องรุ่นท็อป ๆ ส่วนมากจะสัมพันธ์สูงสุดได้ประมาณ 1/250 แต่ก็ยังมีระบบแฟลชที่สามารถสัมพันธ์กับความไวชัตเตอร์ ที่เรียกว่าระบบ FP ของ NIKON เป็นต้น ระบบแฟลชพิเศษนี้ก็จะมีแต่ในแฟลชรุ่นท็อปเช่นกัน ประโยชน์ของระบบพิเศษนี้ จะทำให้สามารถใช้รูรับแสงที่กว้างได้ ความไวชัตเตอร์จะมีความไวสูง แต่ระยะทางของกำลังแฟลชจะลดลงไปเมื่อเทียบกับแฟลชปกติ

          แฟลชสัมพันธ์กับความไวชัตเตอร์ต่ำ (Slow Sync ) หมายถึงการถ่ายภาพด้วยแฟลช ที่ใช้ความไวชัตเตอร์ต่ำกว่าความไวชัตเตอร์สูงสุดที่กำหนดไว้ จุดประสงค์ของเทคนิคนี้คือการต้องการให้ภาพที่ได้บรรยากาศของแสงฉากหลังหรือรอบข้าง เพราะเมื่อถ่ายด้วยแฟลชที่ Sync ตามปกติภาพที่ได้จะมืด แต่เมื่อปรับค่าความไวชัตเตอร์ต่ำลง จะได้ภาพที่มีฉากหลังสว่างขึ้น

ภาพที่ถ่ายด้วยแฟลชกับความไวชัตเตอร์สูง
ภาพที่ถ่ายจากการใช้แฟลชกับความไวชัตเตอร์ต่ำ   (ระวังภาพจะไม่คมชัด)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

การแยกแฟลชและการใช้แฟลชหลายตัว

ช่องเสียบสาย sync แฟลช

          การที่จะแยกแฟลชออกจากตัวกล้อง จุดประสงค์เพื่อเปลี่ยนทิศทางของแสงออกไปตามทิศทางที่ต้องการ ทำให้ภาพเกิดมิติมากขึ้น การจะแยกแฟลชออกจากกล้องนั้นต้องอาศัยช่องเสียบ sync ที่บริเวณตัวกล้อง และสามารถเสียบกับแฟลชสตูดิโอได้ แต่กล้องรุ่นใหม่ ๆ มักจะไม่ให้ช่องเสียบสายแฟลชนี้มา สามารถแก้ไขได้ด้วยอุปกรณ์ ที่เรียกว่า หัวต่อสาย sync แฟลช วิธีการใช้ก็นำเอามาเสียบที่ช่องเสียบแฟลชบนตัวกล้องจากนั้นด้านข้างจะมีช่องเสียบสาย Sync แฟลช เท่านี้ก็สามารถใช้แฟลชแบบแยกได้ หรือใช้ถ่ายภาพในสตูได้ แต่บางทีการต่อสาย Sync แฟลชอาจเป็นที่น่ารำคาญไม่สะดวกสบาย และยุ่งยากในการเก็บอีกทั้งไม่สามารถใช้แฟลชหลายตัวได้

 

 

 

สายซิส

 

 

 

 

 

          

          จะมีที่ต่อแฟลชอีกรูปแบบหนึ่งที่สะดวกสบายกว่าแบบใช้สาย Sync คือ ตาแมว( cat eye ) มันจะทำหน้าที่เป็น Slave เมื่อมีแสงแฟลชตัวใดกระพริบ มันจะทำงานทันที จึงทำให้สะดวกในการจัดแสงมากขึ้น แต่ข้อจำกัดมันก็คือ ไม่สามารถใช้กลางแดดได้ เนื่องจากถูกแสงอาทิตย์ที่แรงกว่าแสงแฟลช เมื่อถ่ายภาพตาแมวไม่สามารถแยกออกว่าอันไหนคือแสงแฟลช มันจึงไม่ทำงาน

แฟลชตามแมว
ตาแมว
เมื่อประกอบเสร็จ
แฟลชบางตัวสามารถเป็น   ตาแมวในตัวได้

          การแยกแฟลชที่สมบูรณ์ที่สุดคือระบบคลื่นวิทยุ (Wireless ) ที่สามารถแบ่งช่องสัญญาณความถี่ได้ และสามารถใช้ระบบ TTL ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ข้อจำกัดของมันก็คือ ต้องเป็นแฟลชรุ่นท็อปเท่านั้นที่สามารถทำได้ ราคาแฟลชตัวละ หมื่นกว่าบาท ซักสองตัวก็สามารถซื้อชุดไฟสตูดิโอได้สักชุดแล้ว ดูแล้วไม่คุ้มสักเท่าไหร่

by ชัยยงค์ โกกนุทาภรณ


 
 

Design by TaewTong | taewtong2002@yahoo.com

 

Copyrights © 2007 www.doartdee.com | All rights reserved.